หาผู้รับเหมาไม่ยากแต่ก็ไม่ง่าย

เมื่อขั้นตอนการออกแบบ-เขียนแบบและขออนุญาตปลูกสร้างบ้านเสร็จแล้วเรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปในการสร้างฝันในการมีบ้านให้เป็นจริงคือขั้นตอนการหาผู้รับเหมา ซึ่งเป็นขั้นตอนที่สำคัญยิ่ง จะปวดหัวมากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับขั้นตอนนี้เป็นสำคัญเช่นกัน ในตอนนี้เราจะเสนอสิ่งที่ควรทราบจากผู้รับเหมาและการเตรียมตัวต่างๆ ก่อนการปลูกสร้าง ทั้งการคัดเลือกผู้รับเหมา การทำสัญญาการจ่ายเงิน และการเตรียมตัวจัดการกับปัญหาต่างๆ ในระหว่างการก่อสร้าง

ในการคัดเลือกผู้รับเหมานั้นสิ่งสำคัญคือเราต้องรู้จักผู้รับเหมาให้ดีพอ ในที่นี้หมายถึง เราควรสอบถามผู้รับเหมาถึงสิ่งที่ผู้รับเหมาเคยทำมาก่อน งานใหญ่ งานเล็ก งานประเภทไหน หากเป็นไปได้ควรไปชมผลงานเก่าๆ ที่ผู้รับเหมาท่านนั้นทำมาก่อนด้วย และที่สำคัญอย่าลืมสอบถามถึงผู้รับเหมาจากปากของลูกค้าท่านอื่นว่ามีปัญหาอะไรและมีสิ่งที่ควรระวังอะไรบ้าง มีการรับประกันผลงานหรือไม่ เป็นระยะเวลาเท่าใด อีกอย่างที่สำคัญมากคือการคิดราคาของผู้รับเหมาว่ามีการคิดราคาอย่างไร แยกค่าของค่าแรงหรือไม่ หรือต้องการแต่ค่าแรง ส่วนค่าวัสดุเราเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายเอง ซึ่งในส่วนนี้ควรคิดถึงส่วนได้ส่วนเสียให้รอบคอบก่อนการตัดสินใจ และควรดูรายการค่าใช้จ่ายให้ละเอียดว่ามีส่วนใดขาดตกบกพร่องไปหรือไม่หากมีควรแจ้งให้ผู้รับเหมาทราบเพื่อกันการเรียกร้องค่าใช้จ่ายในส่วนที่หายไปในภายหลัง ส่วนการจ่ายเงินนั้นมีการแบ่งงวดการจ่ายเงินอย่างไร เหมาะสมหรือไม่ และควรลงลายลักษณ์อักษรให้ชัดเจนก่อนการก่อสร้างจะเริ่มขึ้น ควรระบุให้ชัดเจนด้วยว่าทางผู้รับเหมาจะต้องรับผิดชอบความสะอาดในบริเวณก่อสร้าง ตกลงเวลาเปิด-ปิดสถานที่ก่อสร้างให้ชัดเจนเพื่อป้องกันความเสียหายภายในบริเวณก่อสร้าง

เมื่อเราคัดเลือกผู้รับเหมาได้เป็นที่เรียบร้อยแล้วขั้นตอนต่อไปคือการทำสัญญา ในสัญญานั้นควรจะประกอบด้วยแบบก่อสร้างทั้งแบบสถาปัตยกรรมและแบบวิศวกรรม แผนที่แสดงตำแหน่งสถานที่ก่อสร้าง รายละเอียดของวัสดุ สี ยี่ห้อ ขนาดและอุปกรณ์ที่ใช้พ่วงให้ชัดเจน หน้าที่ความรับผิดชอบของผู้รับเหมา รายชื่อคนงาน ขั้นตอนการดำเนินงานโดยละเอียด การจัดซื้อวัสดุ ระยะเวลาการทำงาน โดยกำหนดวันที่เริ่มงานและวันที่เสร็จงานให้ชัดเจน และหากจะต้องเลื่อนวันส่งงานออกไปจะต้องมีเงื่อนไขตกลงไว้ก่อนด้วย หากมีการเปลี่ยนแปลงแก้ไขแบบหน้างานผู้รับเหมาจะต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้าก่อนลงมือก่อสร้างในส่วนนั้นๆ พร้อมจดลงในบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรด้วย และควรระบุถึงรายละเอียดข้อตกลงทุกอย่างไว้ทั้งหมด รายละเอียดกำหนดการการจ่ายเงินในงวดต่างๆ กำหนดความรับผิดชอบต่อคนงานในกรณีที่เกิดการบาดเจ็บหรือเสียชีวิตของคนงานในเขตก่อสร้าง กำหนดระยะเวลาการรับประกันผลงานและเงื่อนไขในการรับประกัน

ในขณะก่อสร้างเราควรจะมีเงินสำรองในกรณีที่มีปัญหาในการก่อสร้างด้วย เช่น วัสดุที่ระบุไว้ในแบบไม่เหมาะสมกับงานก่อสร้างจริง หรือเราอยากจะเปลี่ยนวัสดุก่อนหรือหลังการติดตั้งไปแล้ว ซึ่งทั้งหมดนี้จะต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากที่ตกลงไว้ในสัญญา

จะเห็นว่าในการก่อสร้างนั้นมีข้อจุกจิกมากมาย ดังนั้นก่อนดำเนินการก่อสร้างเราควรศึกษารายละเอียดต่างๆ ให้ดีเสียก่อน จะได้ไม่ถูกผู้รับเหมาที่ไม่ดีเอาเปรียบนะครับ